Home
news
คลิปไวรัล! "สาว TikToker" พูดได้ 3 ภาษา, ปริญญา 2 ใบ เดินหางานทำทั้งน้ำตา 2024
February 15, 2024

คลิปไวรัล! "สาว TikToker" พูดได้ 3 ภาษา, ปริญญา 2 ใบ เดินหางานทำทั้งน้ำตา 2024

เดลี เมล สื่อดังแห่งประเทศอังกฤษ รายงานคลิปที่เป็นกระแสในโลกออนไลน์ เมื่อหญิงวัย 26 ปีรายหนึ่ง ได้ออกมาอัดคลิปทั้งน้ำตา เผยประสบการณ์การหางานที่สุดท้อแท้ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งประเด็นนี้แสดงให้เห็นถึงปัญหาภาวะการว่างงานในกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังแผ่ขยายเป็นวงกว้างไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

สาวนิวยอร์กคนนี้มีชื่อว่า "โลฮานนี ซานโตส" (Lohanny Santos) พยายามหางานทำในตำแหน่ง "จูเนียร์ ครีเอทีฟ" แต่ก็ไม่มีบริษัทไหนรับเธอเสียที จนสุดท้ายเธอต้องใช้การเดินเข้าไปสมัครโดยตรงแบบไม่ต้องนัดหมาย ซึ่งเธอก็พบว่าวิธีดังกล่าวไม่ประสบผลสำเร็จเช่นเดียวกัน ทำให้เธอตัดสินใจจึงอัดคลิประบายผ่าน lohannysant  บัญชี TikTok ส่วนตัว เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา และคลิปนี้ดังก็กลายเป็นไวรัลทันที ด้วยยอดเข้าชมเกือบ 25 ล้านครั้งแล้ว

เนื้อหาในคลิป โลฮานนี ได้ระบายว่า เธอรู้สึกท้อแท้อย่างมาก และรู้สึกอายด้วย เนื่องจากงานที่เธอถูกปฏิเสธนั้น เธอเรียกเงินเดือนในเรตขั้นต่ำตามกฎหมายเท่านั้นเอง ก่อนจะเล่าว่าเธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเพซ (Pace University) ในนิวยอร์ก สามารถพูดได้ 3 ภาษา และมีปริญญา 2 ใบ คือ ด้านการสื่อสาร และ ด้านการแสดง นั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดหวังสุดๆ ที่ไม่สามารถหางานทำได้เลย

ก่อนหน้านี้ โลฮานนี อยากยึดอาชีพ TikToker (ติกตอกเกอร์) เป็นหลัก แต่การเป็น TikToker ไม่สามารถสร้างรายได้ให้เธอได้เพียงพอ โดยปัจจุบันเธอมีผู้ติดตามราว 1.6 แสนคน และมียอดไลก์รวมทั้งหมด 10 ล้าน ซึ่งผู้ติดตามจำนวนนี้ถือว่าเธอเป็น "อินฟลูเอนเซอร์ระดับกลาง" เท่านั้น โดยในระดับนี้จะมีผู้ติดตามอยู่ที่ 50,000-500,000 คน และทำรายได้อยู่ที่ 125-1,250 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4,400-44,826 บาท ต่อ 1 โพสต์ ทำให้ไม่เพียงพอที่จะอยู่ในมหานครนิวยอร์ก เมืองที่มีค่าครองชีพโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4,299 ดอลลาร์ หรือประมาณ 154,168 ต่อเดือนต่อคนนั่นเอง

หลังจากคลิปนี้เป็นไวรัล ก็มีการแสดงความคิดเห็นกันมากมาย โดยเฉพาะจากคนกลุ่มคนอายุน้อยอย่าง Gen Z ที่อ้างว่าพวกตนก็พบเจอความลำบากในการหางานเช่นกัน ซึ่งปัญหาที่ โลฮานนี กำลังประสบนี้ สะท้อนให้เห็นถึงสภาวะว่างงานในสหรัฐอเมริกาได้เป็นอย่างดี ซึ่งข้อมูลจากธนาคารโลก (World Bank) เคยบอกว่า ในปี 2020 สหรัฐฯเป็นประเทศที่มีเยาวชนว่างงานมากที่สุดอันดับ 5 และเป็นประเทศที่มีประชากรว่างงานเป็นอันดับ 3 ของโลก และสถิติจากเดือนกันยายนของปี 2023 ที่ผ่านมา พบว่าประชากรสหรัฐฯ มีอัตราว่างงานมากถึง 6.4 ล้านคน

โดยตัวเลขดังกล่าวมีผลกระทบมาจากการที่บริษัทใหญ่ๆในสหรัฐฯ ประกาศลดจำนวนพนักงาน ทำให้คนกลุ่ม Gen Z ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่นในเดือนมกราคมที่ผ่านมา Spotify เลิกจ้างพนักงาน 600 คน, เดือนเมษายน Buzzfeed ได้ประกาศปิดแผนกข่าวซึ่งส่งผลกระทบต่อพนักงาน 180 คน และเดือนมีนาคม-พฤษภาคม Meta ได้เลิกจ้างพนักงานเกือบ 10,000 คน ทำให้ในช่วงเวลาดังกล่าว ปัญหาอัตราการว่างงานจึงยังเป็นปัญหาที่รอการแก้ไข และกลายเป็นประเด็นถกเถียงในช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯที่จะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้ต่อไป

No comments